วันดินโลก (World Soil Day)
วันดินโลก ตรงกับวันที่ 5
ธันวาคมของทุกปี
จากการประชุมขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ครั้งที่ 144 ระหว่างวันที่ 11–15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ณ
สำนักงานใหญ่องค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ที่ประชุมได้มีมติสนับสนุนและร่วมกันผลักดันให้มีการจัดตั้ง
"วันดินโลก" (World Soil Day) ตรงกับวันที่ 5
ธันวาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สืบเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ปรากฏผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและนานาชาติ
โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณ สตีเฟน นอร์ตคลิฟฟ์ (Emeritus
Professor Dr. Stephen Nortcliff) กรรมการบริหารสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม (The
Humanitarian Soil Scientist) เมื่อวันที่ 16 เมษายน
พ.ศ. 2556 และขอพระบรมราชาอนุญาตให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็น "วันดินโลก" เพื่อให้วันดังกล่าวเป็นที่รู้จักแพร่หลายในระดับนานาชาติเกิดความต่อเนื่องและจริงจังในการรณรงค์ด้านทรัพยากรดินในทุกระดับ
พร้อมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมให้องค์การสหประชาชาติ จัดกิจกรรมเป็นการเฉพาะต่าง
ๆ อาทิ การประกาศให้ พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) เป็น "ปีดินสากล" ตามที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ และสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ
ประจำกรุงโรม นำเสนอประเด็นดังกล่าวเกี่ยวกับบทบาทและความสำคัญของทรัพยากรดินที่มีต่อความมั่นคงทางอาหารของโลก โดยสืบเนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลักดันข้อเสนอปีดินสากลต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
เพื่อให้วันที่ 5 ธ.ค. ของทุกปี เป็นวันดินโลก
กระทั่งมีการรับรองข้อเสนอดังกล่าว
ทำไมต้องมี “วันดินโลก”
เพื่อสร้างความตระหนักถึง...ความสำคัญของดิน
"ดิน"
เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก
ในด้านการพัฒนาการเกษตร ดินเป็นแหล่งผลิตอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม
และเชื้อเพลิง ดินช่วยพัฒนาระบบนิเวศให้มีความยั่งยืน
เอื้อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ ช่วยดูดซับคาร์บอน
และบรรเทาผลกระทบจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ มนุษย์ใช้ดินเป็นที่ตั้งของที่อยู่อาศัยและเมือง
เป็นที่ทิ้งขยะ เป็นตัวกรองและทำน้ำให้สะอาด
ดินนับวันจะเสื่อมโทรมลง...หากขาดการอนุรักษ์และพัฒนาที่ดินอย่างยั่งยืน
ความต้องการใช้ทรัพยากรดินมีเพิ่มมากขึ้น
ในขณะที่ ดินเป็นทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด และไม่สามารถนำกลับมาทดแทนใหม่
หากมีการเสื่อมสลายไป การใช้ที่ดินผิดประเภท ขาดการอนุรักษ์
และป้องกันปัญหาที่ถูกต้อง จะก่อให้เกิดปัญหาความเสื่อมโทรมของดินที่ส่งผลต่อคุณภาพ
กำลังผลิตของดิน และกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของ มนุษย์
ซึ่งหากดินมีความเสื่อมโทรมที่รุนแรงมาก การฟื้นฟูดินให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์เหมือนเดิมจะทำได้ยาก
ขึ้นด้วย
วันดินโลก...วันสำคัญเพื่อการรณรงค์เกี่ยวกับดิน
สหประชาชาติ (UN) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี
เป็น "วันดินโลก" (World Soil Day) เพื่อใช้เป็นโอกาสในการขับเคลื่อนกิจกรรมการรณรงค์และเผยแพร่ความรู้ทางด้านดิน
และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของดินทั้งในระดับประเทศและระดับโลกต่อมนุษยชาติและสภาพแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง
การอนุรักษ์ดิน
ดิน คือ เทหวัตถุธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นบนพื้นผิวโลก
เป็นวัตถุที่ค้ำจุนการเจริญเติบโตและการทรงตัวของต้นไม้ ดินประกอบด้วยแร่ธาตุและอินทรียวัตถุต่างๆ และมีลักษณะชั้นแตกต่างกัน
แต่ละชั้นที่อยู่ต่อเนื่องกันจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันตามขบวนการ กำเนิดดิน
วิธีการพิเศษในการอนุรักษ์ดิน
วิธีการรักษาหรือเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินทำได้ดังนี้
การจัดการทรัพยากรที่ดิน
การจัดการทรัพยากรที่ดินให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ยั่งยืนต่อไป
ได้แก่
1.
วางแผนการใช้ที่ดินให้เหมาะสมกับสมรรถนะของที่ดิน สภาพทางเศรษฐกิจ สังคม
และสภาวะแวดล้อม เพื่อควบคุมและแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินให้เป็นไปอย่างประหยัด
โดยให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วยพื้นที่สูงสุด
และสามารถรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินให้ตลอดไป
2.
ศึกษาการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจกรรมต่างๆ
และจัดทำแผนที่แสดงขอบเขตการใช้ที่ดินประเภทต่างๆ ในระดับจังหวัดทั่วประเทศ
ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมตามหลักวิชาการ เช่น เขตอุตสาหกรรม เขตเกษตรกรรม
เขตชุมชนเมือง และเขตสถานที่ราชการ เป็นต้น
เพื่อส่งเสริมและควบคุมการใช้ที่ดินแต่ละประเภทให้สอดคล้องกับการกำหนดเขต
โดยเฉพาะจะช่วยให้การคุ้มครองพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเกษตรกรรมไว้เป็นแหล่ง
ผลิตที่ถาวรของประเทศตลอดไป
และเท่ากับเป็นการป้องกันมิให้มีการนำที่ดินไปใช้อย่างผิดประเภท
อันจะช่วยให้การใช้ที่ดินของประเทศโดยส่วนรวมเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตลอดจนจะช่วยรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมไว้ด้วย
3.
ดำเนินการอนุรักษ์ดินและน้ำโดยเฉพาะในพื้นที่สูง หรือพื้นที่ที่มีความลาดชันให้เป็นไปตามหลักวิชาการ
ตลอดจนสงวนและคุ้มครองบำรุงรักษาที่ดินที่เหมาะสมทางการเกษตรให้คงความอุดม
สมบูรณ์ตลอดไป
ขอบคุณข้อมูลจาก
1. https://th.wikipedia.org/